เดินหน้าทำกิจกรรมนอกประเทศญี่ปุ่นเต็มรูปแบบเพื่อโปรโมทผลงานอย่างสุดสมบูรณ์แบบ สำหรับ THE RAMPAGE From Exile Tribe (เดอะแรมเพจ ฟรอม เอ็กไซล์ ไทรบ์) ศิลปินกลุ่มซึ่งก่อตั้งในปี 2014 ผ่านการดูแลของบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมบันเทิงญี่ปุ่น อย่าง LDH JAPAN ผู้เป็นเจ้าของผลงานเพลงที่ติดอันดับ TOP3 และ TOP10 ของ Oricon Charts ยาวนานถึง 7 ปี และรับรางวัลจากรายการเพลงต่าง ๆ ทั้งในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และยุโรป พร้อมทั้งยังเคยได้สร้างสถิติบัตร LIVE SHOWS ในฮอลล์ระดับอารีน่า ประเทศญี่ปุ่น ถูก SOLD OUT อย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดผู้เข้าชมคอนเสิร์ตรวมมากกว่า 260,000 คน !
โดยทั้งเหล่า RAVERS ที่ประเทศไทย (ชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับของ THE RAMPAGE From Exile Tribe) และบรรดาแฟนเพลงหน้าใหม่ ได้ใกล้ชิดและสัมผัสกับผลงานเพลงและการแสดงสุดยอดเยี่ยมจากพวกเขา เมื่อ 16 สมาชิกที่มีความสามารถโดดเด่นทั้งด้านการร้อง การแร็ป และการแสดงบนเวที ลัดฟ้าสู่ประเทศไทยอย่างพร้อมหน้า เพื่อลุยตารางงานแน่นเอี้ยด รวมทั้งการสัมภาษณ์พิเศษกับเหล่าสื่อมวลชนของประเทศไทย เพื่อเป็นสื่อกลางให้ทุกคนได้รู้จักตัวตนในทุกแง่มุมของพวกเขา ที่จะทำให้แฟน ๆ หลงรักทั้งเสน่ห์และตัวตนของพวกเขาอย่างไม่อาจถอนตัวได้ !
บรรยากาศการสัมภาษณ์พิเศษเป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง โดย โชโกะ สมาชิกซึ่งซุ่มเรียนภาษาไทยมา ขอเป็นตัวแทนวงในการสร้างความประทับใจและเรียกรอยยิ้มตั้งแต่แรกพบ ด้วยการทักทายเหล่าสื่อมวลชนเป็นภาษาไทยอย่างยาวเหยียดว่า “สวัสดีครับ พวกเรา THE RAMPAGE จาก Exile Tribe ครับ ดีใจมากครับ พวกเรามี 16 คน สังกัด LDH ร้องได้ เต้นได้ครับ พวกเราดังที่สุดในญี่ปุ่นครับ” โดยมี จิน และ รุย กล่าวถึงความประทับใจเมื่อครั้งที่พวกเขาเคยเดินทางมาประเทศไทยเพื่อร่วมงาน NIPPON HAKU BANGKOK 2023 และเทศกาลดนตรี OCTOPOP 2023 เมื่อไม่กี่เดือนก่อนว่า สัมผัสได้ถึงความรัก การสนับสนุน รวมถึงการตอบรับอย่างร้อนแรงของแฟนเพลง และมีความสุขมากที่ได้เห็นแฟนเพลงในงานมีความสุขและสนุกไปกับเสียงเพลงของพวกเขา
การเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ 16 หนุ่มกลับมาอีกครั้งเพื่อทำกิจกรรมเดี่ยวอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็น งาน THE RAMPAGE FAN EVENT IN THAILAND ซึ่งหนุ่ม อิทสึกิ เผยความรู้สึกว่าตกใจและดีใจอย่างมากที่กระแสตอบรับร้อนแรงจนบัตรขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมแง้มว่า “อนาคตก็อยากมาจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวที่เมืองไทยนะครับ ฝากแฟน ๆ รอพวกเราด้วยนะครับ” ขณะที่ ยามะโช สปอยล์ถึงเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 13 ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ว่า พวกเขาได้เตรียมเซ็ตลิสต์ที่สนุก ๆ เอาไว้แล้ว อยากให้ทุกคนเตรียมชมโชว์ที่ร้อนแรงและสนุกไปด้วยกัน และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่ปีนี้ที่ THE RAMPAGE From Exile Tribe จะมาใกล้ชิดกับแฟน ๆ ชาวไทย การันตีจากที่ จิน เปรยให้ทุกคนเตรียมตัวกันล่วงหน้า “ปีหน้าคาดหวังได้เลยครับว่าพวกเราจะทำกิจกรรมทั้งที่ญี่ปุ่นและทั่วเอเชีย เปรียบเสมือนปีนี้พวกเราได้หว่านเมล็ดพันธุ์เอาไว้ แล้วปีหน้าพวกเราจะมาเก็บเกี่ยวครับ รอเจอพวกเรากันอีกได้เลยครับ”
ความพิเศษที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือปรากฎการณ์ทางดนตรีครั้งสำคัญ เมื่อ THE RAMPAGE From EXILE TRIBE เพิ่งได้ร่วมสร้างสรรค์ผ่านผลงานเพลงแนว House, EDM, Pop ที่มีชื่อว่า “What is done” (วอท อิส ดัน) ร่วมกับศิลปินอิเล็กทรอนิคส์แดนซ์ชาวไทย อย่าง BOOM BOOM CASH (บูม บูม แคช) จากสังกัด High Cloud Entertainment ไปหมาด ๆ ซึ่ง ริว ภูมิใจนำเสนอว่า “เพลง What is done เป็นเพลงที่แตกต่างจากเพลงที่ THE RAMPAGE เคยทำมาครับ เพราะมีดนตรีที่มีกลิ่นอายของ American Pop ส่วนบีทของดนตรีก็เป็นแนว House และ Electronic ที่มีเอกลักษณ์มาก ๆ ยิ่งผมได้ยินมาว่านักร้องนำของวง BOOM BOOM CASH อย่างคุณฝ้าย เปรียบเหมือนคุณเฟอร์กี้ แห่ง Black Eyed Peas ของเมืองไทย ยิ่งรู้สึกดีใจที่ได้ร่วมงานด้วยกันเลยครับ เพราะคุณฝ้ายร้องเพลงเก่งจริง ๆ” ซึ่งฟีดแบ็กของเพลง What is done ก็ร้อนแรงจนทำให้ยอดวิวส์ของ Lyrics Video เพลงนี้พุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว จนเกิดเสียงเรียกร้องให้มี Music Video และ Performance Video ทำเอาหนุ่ม ลิกิยะ เผยว่าตนเองและวงก็อยากให้มีเช่นกัน ถ้ามีโอกาสก็จะปล่อยออกมาเร็ว ๆ นี้
ไม่เพียงแค่ผลงานเพลงเท่านั้น เพราะสมาชิกหลายคนของ THE RAMPAGE From EXILE TRIBE ยังได้ฝากผลงานด้านการแสดงไว้อย่างโดดเด่น อย่างภาพยนตร์เรื่อง MY (K)NIGHT ที่กำลังเข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่ขณะนี้ ก็ได้ 3 หนุ่มโวคอล อย่าง ริคุ, คาซึมะ และ โฮคุโตะ แสดงนำในบทบาทของชายหนุ่มซึ่งต่างค่อย ๆ เปิดใจและพัฒนาความสัมพันธ์กับตัวละครหญิงคู่ของตัวเอง “มองผิวเผินอาจคิดว่าเป็นหนังที่มีเนื้อหาเบา ๆ แต่จริง ๆ แล้วหนังเรื่องนี้สะท้อนถึงปัญหาสังคมอย่างแท้จริงเลยล่ะครับ ทั้งปัญหาครอบครัว คู่แต่งงาน และผู้คนที่กำลังไล่ตามความฝันอยู่ด้วย” คาซึมะ กล่าว และเมื่อถูกนักข่าวถามถึงรุ่นพี่คนสนิท อย่าง นากาโมโตะ ยูตะ ที่เคยประชันบทบาทกันในภาพยนตร์แฟรนไชส์แอ็กชั่นฟอร์มยักษ์เรื่อง HiGH&LOW THE WORST X ว่าทราบหรือไม่ว่าตอนนี้ ยูตะ ก็กำลังทำกิจกรรมอยู่ในประเทศไทย เขาก็เผยถึงมิตรภาพที่ยังไม่เสื่อมคลายว่า “รู้ครับ เพราะเราติดต่อกันอยู่ รู้สึกว่ามีวาสนาต่อกันที่พวกเราได้มาอยู่ที่ประเทศไทยในเวลาเดียวกันนะครับ แต่ว่าตารางงานของ THE RAMPAGE แน่นมาก เลยคิดว่าน่าจะไม่ได้เจอกันครับ”
หากถามว่าสมาชิกคนใดของวงที่ถูกเสน่ห์ของประเทศไทย ‘ตก’ เข้าอย่างจัง บอกเลยว่าสูสีกันสุด ๆ ระหว่าง ‘หงส์ไทยบอย’ อย่าง โชเฮย์ ซึ่งพกยาดมหงส์ไทยใส่กระเป๋าติดตัวมาถึง 6 กระปุกและครบทุกสี! “จุดเริ่มต้นมาจาก คุณ F.HERO เอาไปเป็นของฝากตอนที่ได้ร่วมงานกันในงาน Battle of Tokyo ที่ญี่ปุ่นครับ พอได้ดมก็ตกเป็นทาสของหงส์ไทยทันทีเลยครับ จนรู้สึกว่าอยากจะเอาหงส์ไทยไปขยายให้เป็นที่รู้จักของคนญี่ปุ่นกันเยอะ ๆ รอบที่แล้วเลยซื้อจากสนามบินเอากลับญี่ปุ่นไป 70 กระปุกเลย” ด้าน ทาคาฮิเดะ และ มาโคโตะ เผยถึงกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทยว่า เขาอยากขี่ช้าง และไปสัมผัสดินแดนมรดกโลก อย่าง จ. พระนครศรีอยุธยา และเมื่อถูกถามถึงอาหารไทย หนุ่ม ไคเซย์ ก็เผยหมดเปลือกว่ามาประเทศไทยครั้งนี้เขาเพิ่งได้ลองลิ้มชิมรสไก่ทอดในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งอร่อยจนอดใจไม่ไหวเหมาทานคนเดียวไปถึง 30 ชิ้น! ขณะที่ทักษะภาษาไทยของ โชโกะ ก็ทำให้ทุกคนต้องทึ่ง เมื่อเขาพูดประโยคยอดฮิตตามพิธีกรได้อย่างชัดแจ๋วว่า “คนที่หล่อขนาดนี้ เป็นของคุณนะ” ก่อนแปลให้เพื่อนร่วมวงได้รู้ถึงความหมายได้ในทันที ซึ่งหวานแหววจนเพื่อน ๆ ส่งเสียงแซวกันดังสนั่น !
การสัมภาษณ์สุดเต็มอิ่มเดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย เมื่อ รุย สมาชิกผู้คิดท่าเต้นสุดเก๋ที่เพื่อนร่วมวงยกให้เป็น ‘รุยเซนเซย์’ เปลี่ยนห้องสัมภาษณ์เป็นเวทีคอนเสิร์ตขนาดย่อมด้วยสกิล Performance ระดับเทพ “สวัสดีครับ ผมชื่อรุย รักนะจุ๊บ ๆ… สู้ ๆ… ขอเสียงหน่อย!” โดยมีเพื่อน ๆ อีก 15 คน และนักข่าวทั้งหมดส่งเสียงตอบรับอย่างคึกคัก ก่อนปิดท้ายด้วยการลุกขึ้นมาโชว์และสอนสเต็ปชาเลนจ์ที่กำลังฮิตในติ๊กต่อกของเพลง “What is done” ถือเป็นการจบการสัมภาษณ์พิเศษที่ THE RAMPAGE From EXILE TRIBE มอบให้แก่สื่อมวลชนชาวไทยอย่างสนุกและน่าประทับใจตั้งแต่ต้นจนจบทำเอาถูก “ตก” กันไปเรียบร้อย